ภูมิประเทศ
สหรัฐอเมริกาตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ เป็นสหพันธรัฐประชาธิปไตย ปกครองภายใต้รัฐธรรมนูญ ประกอบไปด้วยมลรัฐ 50 มลรัฐ และ 1 District (District of Columbia ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Washington D.C.) มีเนื้อที่ประมาณ 9.63 ล้านตารางกิโลเมตร โดยมีมลรัฐ Alaska อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแคนาดา และมลรัฐฮาวายอยู่ทางตอนกลางของมหาสมุทรแปซิฟิก มีพรมแดนต่อกับประเทศแคนาดาและเม็กซิโก ส่วนพรมแดนทางทะเลนั้นติดต่อกับประเทศแคนาดา รัสเซีย และบาฮามาส โดยมีมหาสมุทรแปซิฟิก ทะเลแบริง มหาสมุทรอาร์กติก มหาสมุทรแอตแลนติก อ่าวเม็กซิโก และทะเลแคริบเบียนเป็นผืนน้ำล้อมรอบ
สหรัฐอเมริกามีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 หรือ 4 ของโลก และมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก เป็นประเทศซึ่งมีความแตกต่างหลากหลายในเชื้อชาติและวัฒนธรรม อันเป็นผลมาจากการอพยพจากหลายประเทศ เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเป็นเศรษฐกิจระดับชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีอัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ เมื่อปี พ.ศ. 2551 กว่า 14.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (อัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศคิดเป็นร้อยละ 15 ของโลก และอยู่ในอันดับที่ 5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ)
Zone |
States |
West |
Alaska (เป็นมลรัฐที่ใหญ่ที่สุด), Arizona, California, Colorado, Hawaii, Idaho, Montana, Nevada, New Mexico, Oregon, Utah, Washington, Wyoming |
Midwest |
Illinois, Indiana, Iowa, Kansas, Michigan, Minnesota, Missouri, Nebraska, North Dakota, Ohio, South Dakota, Wisconsin |
South |
Alabama, Arkansas, Delaware, Florida, Georgia, Kentucky, Louisiana, Maryland, Mississippi, North Carolina, Oklahoma, South Carolina, Tennessee, Texas, Virginia, West Virginia |
Northeast |
Connecticut, District of Columbia, Maine, Massachusetts, New Hampshire, New Jersey, New York, Pennsylvania, Rhode Island (เป็นมลรัฐที่เล็กที่สุด), Vermont |
ระบบการปกครอง
ประเทศสหรัฐอเมริกามีรูปแบบการปกครองแบบสหพันธรัฐ (Federal Republic) แบ่งอำนาจออกเป็น 3 ฝ่าย ภายใต้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ แต่ละฝ่ายได้รับเลือกในลักษณะที่แตกต่างกันออกไป จึงมีการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกัน ประกอบด้วยพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค คือ พรรครีพับลิกัน (Republican) และพรรคเดโมแครต (Democrat) ดังนี้
- ฝ่ายบริหาร มีประธานาธิบดี (President) เป็นประมุขและเป็นหัวหน้ารัฐบาล (Chief of Executive) ได้รับเลือกจากการเลือกตั้งทั่วไป ร่วมกับรองประธานาธิบดีทุก 4 ปี ในวันอังคารแรกหลังวันจันทร์แรกของเดือนพฤศจิกายน ประธานาธิบดีมาจากการเลือกตั้งผ่านคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) จำนวน 538 คน ดำรงตำแหน่งไม่เกิน 2 สมัย สมัยละ 4 ปี ประธานาธิบดีจะเป็นผู้ร่างรัฐบัญญัติต่อรัฐสภา และทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้ทำสนธิสัญญาต่าง ๆ ตลอดจนแต่งตั้งผู้พิพากษาเอกอัครราชทูตและตำแหน่งต่าง ๆ ของฝ่ายบริหารตั้งแต่ระดับรองผู้ช่วยรัฐมนตรี (Deputy Assistant Secretary) ขึ้นไป
- ฝ่ายนิติบัญญัติ ประกอบด้วย 2 สภา คือ วุฒิสภา มีสมาชิกจากแต่ละมลรัฐ มลรัฐละ 2 คน รวมเป็น 100 คน ดำรงตำแหน่งสมัยละ 6 ปี โดยสมาชิกจำนวน 1 ใน 3 ครบวาระทุก 2 ปี วุฒิสภามีอำนาจให้ความเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบต่อบุคคลที่ประธานาธิบดีรวมทั้งคณะรัฐมนตรีเสนอขอแต่งตั้ง และให้สัตยาบันสนธิสัญญา รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง (President of the Senate) สภาผู้แทนราษฎร มีสมาชิก 435 คน แบ่งตามสัดส่วนของประชากรในมลรัฐ คือ ประชากร 575,000 คน ต่อ สมาชิก 1 คน ดำรงตำแหน่งสมัยละ 2 ปี
- ฝ่ายตุลาการ ประกอบด้วย ศาลชั้นต้น (Curcuit Court) ศาลอุทรณ์ (Appeal Court) และศาลฎีกา (Supreme Court) ศาลฎีกามีอำนาจที่จะล้มเลิกกฎหมายใด ๆ และการปฏิบัติการของฝ่ายบริหารที่ได้วินิจฉัยแล้วว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ในการแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลฎีกานั้น ประธานาธิบดีเป็นผู้เสนอชื่อและวุฒิสภาเป็นผู้ให้การรับรอง โดยศาลสูงของสหพันธ์มีผู้พิพากษาทั้งหมด 9 คน ซึ่งตำรงตำแหน่งได้โดยไม่มีการกำหนดวาระ โดยประธานาธิบดีเป็นผู้เสนอชื่อและวุฒิสภาเป็นผู้ให้การรับรอง
ภูมิอากาศ
ภูมิอากาศโดยทั่วไปของประเทศสหรัฐอเมริกาจะเป็นอากาศหนาว เว้นแต่ในมลรัฐฮาวาย และมลรัฐฟลอริดา อากาศจะหนาวเย็นมากที่บริเวณขั้วโลกเหนือในมลรัฐอะแลสกา ส่วนบริเวณที่ราบด้านตะวันตกของแม่น้ำมิสซิสซิปปี (Mississippi) จะค่อนข้างแห้งแล้ง และมีความแห้งแล้งมากบริเวณที่ลุ่มภาคตะวันตกเฉียงใต้ และภาคตะวันตกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิต่ำในช่วงฤดูหนาว ซึ่งอากาศจะดีขึ้นเป็นครั้งคราวในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ โดยจะได้รับความอบอุ่นจากลมของเนินเขาด้านตะวันออกของเทือกเขาร๊อกกี้
ฤดูกาล
ฤดูหนาว |
ธ.ค. – ก.พ. |
9°C – 23°C |
ฤดูใบไม้ผลิ |
มี.ค. – พ.ค. |
14°C – 31°C |
ฤดูร้อน |
มิ.ย. – ส.ค. |
22°C – 33°C |
ฤดูใบไม้ร่วง |
ก.ย. – พ.ย. |
15°C – 32°C |
เวลา
ประเทศสหรัฐอเมริกาใช้ระบบเวลา 12 ชั่วโมง ไม่ใช่ระบบ 24 ชั่วโมงที่ใช้อยู่ในประเทศไทย ช่วงเวลา 12 ชั่วโมงจากเที่ยงคืนถึงเที่ยงวันเรียกว่า ก่อนเที่ยง (ante meridian หรือ a.m.) ส่วนช่วงเวลา 12 ชั่วโมงจากเที่ยงวันถึงเที่ยงคืนเรียกว่า หลังเที่ยง (post meridian หรือ p.m.) การแบ่งเวลาในประเทศสหรัฐอเมริกา แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่
|
เวลาช้ากว่าประเทศไทย |
เมืองที่อยู่ในเขตนี้ |
PST (Pacific Standard Time) |
15 ชั่วโมง |
San Francisco, Seattle, Las Vegas,Los Angeles |
MST (Mountain Standard Time) |
14 ชั่วโมง |
Salt Lake City, Denver, Phoenix |
CST (Central Standard Time) |
13 ชั่วโมง |
Minneapolis, Chicago, OklahomaCity, Dallas, Houston, Memphis |
EST (Eastern Standard Time) |
12 ชั่วโมง |
Detroit, Louisville, Atlanta, Washington D.C., New York, Boston |
ศาสนา
ในสหรัฐอเมริกาไม่มีการกำหนดศาสนาประจำชาติอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามจากการสำรวจเรื่องศาสนามีประมาณ 76.7% ของชาวอเมริกันนับถือศาสนาคริสต์ (52% นิกายโปรแตสแตนต์, 24.5% นิกายโรมันคาทอลิก และนิกายอื่นอีก 0.2%) โดยที่เหลือ เป็นชาวอเมริกันนับถือศาสนาอื่น หรือไม่นับถือศาสนาใดเลย
ประชากร
จากข้อมูลการสำรวจประชากรของสหรัฐอเมริกาแบ่งโดยเชื้อชาติ ปี 2010 มีประชากร 308,745,538 คน ประกอบด้วย
คนผิวขาว รวมถึง คนเม็กซิกัน |
72.4 % |
223.5 ล้านคน |
คนผิวดำ หรือ แอฟริกันอเมริกัน |
12.6 % |
38.9 ล้านคน |
คนอเมริกันเอเชีย |
4.8 % |
14.6 ล้านคน |
ชาวอินเดียนแดง |
0.9 % |
2.9 ล้านคน |
ชาวฮาวาย |
0.2 % |
540,013 คน |
อื่น ๆ |
9.1 % |
28.1 ล้านคน |
วัฒนธรรม
- อาหาร แฮมเบอร์เกอร์เป็นอาหารประจำชาติสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีผู้อพยพเข้ามาอยู่ตลอดเวลา อาหารในประเทศจึงมีความหลากหลาย โดยอาหารพื้นเมืองในสหรัฐอเมริกา หรืออาหารชาวอินเดียนแดง คืออาหารที่มีส่วนประกอบของ ไก่งวง มันสำปะหลัง ข้าวโพด และฟักทอง ในปัจจุบันประชากรมีการอพยพมาจากฝั่งยุโรปเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในส่วนของอาหารอเมริกัน ซึ่งได้แก่อาหารหลายประเภท เช่น พายแอปเปิล พิซซา ชาวเดอร์ พาสตา แฮมเบอร์เกอร์ ฮอตด็อก แซนด์วิช และนอกจากนี้ยังมีกลุ่มที่อพยพมาจากทางประเทศเม็กซิโก ซึ่งอาหารประเภท เบอร์ริโต และ ทาโก ได้เป็นอาหารหลักในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้อาหารชาติอื่น ไม่ว่าจะเป็น ซูชิของญี่ปุ่น หรือติ่มซำของจีน รวมไปถึงอาหารไทยเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในสหรัฐอเมริกาเช่นกัน
- ดนตรี ดนตรีในสหรัฐอเมริกา เกิดจากการผสมผสานของดนตรีหลายเชื้อชาติเข้าด้วยกัน และเกิดเป็นดนตรีแนวใหม่รายประเภท เช่น ร็อคแอนด์โรลล์ ฮิปฮอป คันทรี บลูส์ และแจ๊ส และในช่วงล่าสุดดนตรีของสหรัฐอเมริกาได้เริ่มเป็นที่นิยมในหลายที่ทั่วโลก นอกจากนี้การเต้นรำได้มีกำเนิดมาจากสหรัฐอเมริกันเช่นกัน ตัวอย่างเช่น การเต้นแท็ป
- กีฬา อเมริกันฟุตบอลเป็นกีฬาที่นิยมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา กีฬาเป็นการละเล่นที่นิยมเล่นกันมากตั้งแต่ระดับโรงเรียนจนถึงมหาวิทยาลัย และระดับอาชีพ และเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศ กีฬาที่นิยมมากที่สุดในสหรัฐทั้ง 4 อย่างคือ อเมริกันฟุตบอล บาสเกตบอล เบสบอล และ ไอซ์ฮอกกี กีฬาอื่นที่นิยมรองลงมาได้แก่ การแข่งรถ (นาสคาร์) ลาครอสส์ และ ฟุตบอลที่เริ่มเป็นที่นิยมในหมู่เด็กชาวอเมริกัน ถึงแม้ว่าฟุตบอลจะมีการแข่งขันอาชีพในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ แต่ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าการแข่งขันอื่นเช่นใน เอ็นเอฟแอลของอเมริกันฟุตบอล เอ็นบีเอของบาสเกตบอล หรือ เมเจอร์ลีกเบสบอล นอกจากนี้กีฬาที่ได้รับความนิยมในหมู่บุคคลเฉพาะเช่น สเก็ตบอร์ด สกี สโนว์บอร์ด และ เซิร์ฟบอร์ด เริ่มเป็นที่แพร่หลายเช่นกัน ในระดับนานาชาติ สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จสูงในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
ภาษา
สหรัฐอเมริกาไม่มีการกำหนดภาษาประจำชาติ แต่ในทางปฏิบัติภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้กันมากที่สุดในประเทศ ในบางรัฐได้มีการกำหนดภาษาทางการของรัฐ นอกจากนี้ภาษาที่มีใช้กันมากในสหรัฐอเมริกามากกว่าหนึ่งล้านคน ได้แก่ ภาษาสเปน ภาษาจีน ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเวียดนาม และภาษาเยอรมัน
กระแสไฟฟ้า
ระบบไฟฟ้าของสหรัฐอเมริกานั้นมี 120 V, 60 Hz ใช้ปลั๊กเสียบแบบ 2 ขา และ 3 ขา ทรงแบน สามารถใช้ Adapter เพื่อแปลงกระแสไฟฟ้าได้ หากนำเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศไทยไปด้วย (ในอาคารและที่พักอาศัยสมัยใหม่ ตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมา ส่วนใหญ่ใช้ปลั๊กเสียบแบบ 3 ขา)
TYPE A TYPE B
สกุลเงิน
ประเทศสหรัฐอเมริกาใช้ระบบดอลล่าห์และเซ็นต์เป็นอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลล่าห์ = 100 เซ็นต์
โทรศัพท์
รหัสประเทศ (Country Code) ของประเทศสหรัฐอเมริกาคือ 1 และรหัสเมือง (Area Code / City Code) 3 หลัก ของท้องที่ เมือง หรือภาคนั้น ๆ และหมายเลขโทรศัพท์พื้นฐาน 7 หลัก
ผู้ให้บริการระบบโทรคมนาคมมีมากมายในสหรัฐอเมริกา เช่น AT&T, Verizon และ Qwest นอกจากนี้ ด้วยความทันสมัยของระบบสื่อสารในโลกปัจจุบัน นักศึกษาสามารถโทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศผ่านระบบอินเตอร์เน็ตด้วย ซึ่งมีผู้ให้บริการหลากหลาย ผู้ให้บริการบางรายคิดอัตราค่าบริการในราคาที่เหมาะสม
หนังสือรวบรวมรายชื่อผู้ใช้โทรศัพท์ มีอยู่ 3 ประเภทคือ
- White Pages – รวบรวมรายชื่อผู้ใช้โทรศัพท์ประเภทบุคคลทั่วไป โดยแสดงชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ เรียงตามตัวอักษร
- Yellow Pages – รวบรวมรายชื่อผู้ใช้โทรศัพท์ประเภทธุรกิจ โดยแสดงชื่อบริษัทหรือองค์กร และบริการต่าง ๆ เรียงตามตัวอักษร
- Blue Pages – รวบรวมรายชื่อองค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยแสดงชื่อหน่วยงาน ที่อยู่และรัฐที่ตั้ง
หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินที่ควรทราบ
ฉุกเฉิน (ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดับเพลิง และรถพยาบาล) |
911 |
สอบถามหมายเลขโทรศัพท์ในท้องถิ่น |
411 |
ติดต่อพนักงานซ่อมโทรศัพท์ |
611 |
สถานทูตไทย (Washington D.C.) |
(202) 944-3600 |
สถานกงสุลไทย (New York) |
(212) 754-1770 |
สถานกงสุลไทย (Los Angeles) |
(323) 962-9574 |
สถานกงสุลไทย (Chicago) |
(312) 664-3129 |
Updated Jan. 2013